กฏหมายเครื่องสำอาง

 

พ.ร.บ.เครื่องสำอาง (หมวด 3 ฉลากเครื่องสำอาง) มาตรา 22 กำหนดลักษณะของฉลากที่ผู้ผลิตเครื่องสำอางเพื่อขาย ผู้นำเข้าเครื่องสำอางเพื่อขาย และผู้รับจ้างผลิตเครื่องสำอางต้องจัดทำไว้ว่าต้องจัดทำฉลากให้มีลักษณะดังต่อไปนี้

ใช้ข้อความที่ตรงต่อความจริง ไม่มีข้อความที่อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในสาระสำคัญของเครื่องสำอาง และไม่ใช้ข้อความที่ขัดต่อศีลธรรมหรือวัฒนธรรมอันดีงามของไทย
ใช้ข้อความภาษาไทย และมีขนาดที่สามารถอ่านได้อย่างชัดเจน ทั้งนี้อาจมีภาษาต่างประเทศด้วยก็ได้
ต้องระบุชื่อเครื่องสำอางและชื่อทางการค้า, ชื่อและที่ตั้งของผู้ผลิตเครื่องสำอาง แต่หากเป็นการนำเข้าเครื่องสำอาง ต้องระบุชื่อและที่ตั้งของผู้นำเข้า และชื่อผู้ผลิตและประเทศที่ผลิต, ปริมาณ วิธีใช้ ข้อแนะนำ คำเตือน เดือน ปีที่ผลิตและหมดอายุ เลขที่หรืออักษรแสดงครั้งที่ผลิต และชื่อของสารทุกชนิดที่ใช้เป็นส่วนผสมในการผลิต, ข้อความอื่นเพื่อคุ้มครองประโยชน์ของผู้บริโภคตามที่คณะกรรมการเครื่องสำอางกำหนด

ในรายละเอียด คณะกรรมการเครื่องสำอางได้กำหนดลักษณะของฉลากในส่วนของรายละเอียดเพิ่มเติมไว้ในประกาศคณะกรรมการเครื่องสำอาง เรื่องฉลากของเครื่องสำอาง พ.ศ. 2562 โดยฉลากที่ปรากฏบนบรรจุภัณฑ์ของเครื่องสำอาง ต้องแสดงรายละเอียดดังต่อไปนี้

  1. ชื่อเครื่องสำอางและชื่อทางการค้าของเครื่องสำอางต้องมีขนาดใหญ่กว่าข้อความอื่น
  2. ต้องระบุประเภทหรือชนิดของเครื่องสำอาง
  3. ชื่อของสารทุกชนิดที่ใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตต้องเป็นชื่อตามตำราที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาประกาศกำหนด โดยแสดงเป็นชื่อ INCI Name (International Nomenclature of Cosmetic Ingredients) ส่วนสีที่ใช้เป็นส่วนผสมเครื่องสำอางให้แสดงเป็น CI No. (Color Index Number) หรือในกรณีที่ไม่มี CI No. สามารถแสดงเป็นชื่อสีได้
  4. แสดงชื่อของสารที่มีความเข้มข้นมากกว่าร้อยละ 1 เรียงลำดับตามปริมาณของสารจากมากไปหาน้อยก่อน แล้วตามด้วยสีที่อาจใช้เป็นส่วนผสมในการผลิตเครื่องสำอาง ส่วนสารที่มีความเข้มข้นน้อยกว่าร้อยละ 1 ไม่จำเป็นต้องเรียงลำดับตามปริมาณของสารจากมากไปหาน้อย
  5. กรณีที่มีการใช้สารอนุภาค nano เป็นส่วนผสมในการผลิตเครื่องสำอาง ให้ระบุข้อความ “(nano)” ต่อท้ายชื่อสาร
  6. เครื่องสำอางที่มีวันหมดอายุน้อยกว่า 30 เดือนนับจากวันที่ผลิต ต้องแสดงวันหมดอายุที่ฉลากของเครื่องสำอางทุกผลิตภัณฑ์ ส่วนเครื่องสำอางที่มีวันหมดอายุมากกว่า 30 เดือนนับจากวันที่ผลิตจะแสดงวันหมดอายุหรือไม่ก็ได้
  7. เครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของ Hydrogen peroxide, เครื่องสำอางป้องกันแสงแดดที่มีส่วนผสมของ Avobenzone ต้องแสดงวันหมดอายุที่ฉลากของเครื่องสำอาง ไม่ว่าเครื่องสำอางนั้นจะมีอายุการใช้น้อยกว่าหรือมากกว่า 30 เดือนนับจากวันผลิตก็ตาม
  8. แสดงเลขที่ใบรับจดแจ้งเครื่องสำอางเป็นเลข 10 หลัก หรือ 13 หลัก ตามที่ได้จดแจ้งไว้

นอกจากนี้คณะกรรมการเครื่องสำอางยังได้ออกประกาศเกี่ยวกับคำเตือนเกี่ยวกับการใช้เครื่องสำอางซึ่งต้องแสดงไว้บนฉลากเครื่องสำอางอีกด้วย โดยออกประกาศแยกไปตามชนิดของเครื่องสำอาง เช่น คำเตือนเกี่ยวกับการใช้เครื่องสำอางที่มีวัตถุกันเสีย คำเตือนเกี่ยวกับการใช้เครื่องสำอางที่มีสารป้องกันแสงแดด คำเตือนเกี่ยวกับการใช้เครื่องสำอางย้อมผิวให้เป็นสีแทน เป็นต้น