ผลงานวิจัย HCAT Reseach >> ผลงานวิจัยและผลงานเชิงพานิชย์ของอาจารย์นักวิจัยสาขาวิชาเทคโนโลยีสุขภาพ เครื่องสำอางและการชะลอวัย
[TH] / [EN]
การพัฒนาผลิตภัณฑ์ใบขลู่แห้งชงดื่ม ที่ได้ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน มผช. รายแรกในประเทศไทย
นักวิจัย : ผศ.ดร.สิริรัตน์ พานิช ผศ.ดร.วรวิทย์ จันทร์สุวรรณ อ.อัญชนา ขัตติยะวงศ์ และคณะวิจัย มทร.พระนคร
นักวิจัยสังกัดคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร โดยหัวหน้าโครงการคือ ผศ.ดร.สิริรัตน์ พานิช และผู้ร่วมโครงการ ผศ.ดร.วรวิทย์ จันทร์สุวรรณ และ อ.อัญชนา ขัตติยะวงศ์ คณะวิจัยได้ศึกษาพัฒนากระบวนการล้างใบขลู่เพื่อลดปริมาณสารพิษ สำหรับควบคุมคุณภาพการผลิตสมุนไพรใบขลู่อบแห้งสำหรับชงดื่มให้วิสาหกิจชุมชนลุงแกละชาใบขลู่ ตำบลพันท้ายนรสิงห์ อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร ภายใต้โครงการพัฒนาและยกระดับสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ ด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สป.อว.) ประจำปี 2563
ลุงแกละชาใบขลู่และวิสาหกิจชุมชนบ้านสันดาป ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2559 โดยเกิดจากการรวมตัวกันของชุมชนบ้านตำบลพันท้ายนรสิงห์ อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร เพื่อส่งเสริมชาวบ้านมีรายได้เพิ่มมากขึ้นจากการนำพืชสมุนไพรที่ขึ้นได้เองและมีจำนวนมากในท้องถิ่น ใบขลู่เป็นพืชสมุนไพรที่มีสารสำคัญหลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ โดยเฉพาะฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ โดยมีงานวิจัยเกี่ยวกับสมบัติทางเภสัชวิทยาของใบขลู่ช่วยลดน้ำตาลในเลือด ลดความดัน ลดการกักเสบ เป็นต้น ทั้งนี้ ตามตำรายาศาสตร์แผนไทยนำใบขลู่มาใช้รักษาอาการขัดเบา ขับปัสสาวะ เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ผลิตภัณฑ์ของวิสาหกิจชุมชนลุงแกละ ยังไม่ได้รับการรับรองเป็นผลิตภัณฑ์โอทอประดับ 5 ดาว เนื่องจากด้านโรงเรือนสถานที่ และกระบวนการอบแห้ง เพราะตรวจพบเชื้อราและยีสต์เกินระดับมาตรฐานที่กำหนด
คณะวิจัยของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนครได้ดำเนินการศึกษาร่วมกับผู้ประกอบการ เพื่อแสวงหาวิธีการแก้ไข ปรับปรุงคุณภาพ โดยขั้นตอนวิจัยระยะที่ 1 เป็นการศึกษากระบวนการล้างใบขลู่เพื่อลดปริมาณสารพิษ และจุลชีพต่าง ๆ ได้แก่
1) การวิเคราะห์สมบัติเคมี กายภาพและจุลชีพของใบขลู่ (ความชื้น ยีสต์ รา และโลหะหนัก)
2) การยืดอายุการเก็บรักษาผลิตภัณฑ์ให้ยาวนานมากกว่า 4 เดือน
3) การศึกษาข้อมูลทางประสาทสัมผัสของผู้บริโภค ซึ่งเป็นการประเมินความพึงพอใจต่อคุณลักษณะที่มีต่อผลิตภัณฑ์ เช่น สี กลิ่น รสชาติ สรรพคุณ และอื่น ๆ เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อไป
ผลการทดสอบและการวิเคราะห์สมบัติทางเภสัชวิทยาในใบขลู่แห้งชงดื่ม (น้ำ) พบสารสำคัญเช่น แทนนิน คาเทชิน เคอซิติน กรดแลกติก ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูง นอกจากนี้ รสชาติมีความหอม อร่อย สีสันตามธรรมชาติ สร้างความมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยให้แก่ผู้บริโภค ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ใบขลู่แห้งชงดื่มได้ผ่านเกณฑ์มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) รายแรกและเพียงรายเดียวในประเทศไทย สามารถสร้างรายได้ให้กลุ่มเพิ่มขึ้น โดยเฉลี่ยมียอดขายเพิ่มจากเดิมประมาณ 10 %
ข้อมูลเผยแพร่ : 9 สิงหาคม 2566
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> Click
โฟมล้างหน้าจากไฮโดรโซลขลู่
นักวิจัย : ผศ.ดร.วรวิทย์ จันทร์สุวรรณ ผศ.ดร.สิริรัตน์ พานิช และ อ.อัญชนา ขัตติยะวงศ์
นักวิจัยสังกัดคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร โดยหัวหน้าโครงการคือ ผศ.ดร.วรวิทย์ จันทร์สุวรรณ และผู้ร่วมโครงการ ผศ.ดร.สิริรัตน์ พานิช และ อ.อัญชนา ขัตติยะวงศ์ ดำเนินการศึกษาองค์ประกอบทางพฤกษเคมีของน้ำสกัดน้ำมันหอมระเหย (หรือเรียกว่า ไฮโดรโซล) จากใบขลู่ สมบัติการออกฤทธิ์ทางเภสัชวิทยา เพื่อนําไปใช้เป็นส่วนประกอบของผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางประเภทโฟมล้างหน้าสำหรับลดการอักเสบผิวหนัง ได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564
ขลู่ (ชื่อวิทยาศาสตร์ Pluchea indica (L.) Less.) เพื่อเป็นพืชสมุนไพรมีกันแพร่หลายในประเทศแถบเอเชีย เช่น อินเดีย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย เป็นต้น ตามภูมิปัญญาท้องถิ่นได้มีการแบ่งสรรพคุณของขลู่ทั้ง 5 ส่วน คือ ใบ ราก ลำต้น ดอก และผล มาใช้เป็นสมุนไพรมีสรรพคุณทางยาในการขับปัสสาวะ แก้ปัสสาวะพิการ และลดอาการบวม ประโยชน์และสรรพคุณของขลู่มีจำนวนมาก โดยสามารถพิจารณาจากส่วนของพืชแต่ละส่วน (disthai.com) ใบขลู่นิยมนำมารับประทานกับน้ำพริก หรือนํามาเป็นส่วนหนึ่งของวัตถุดิบในการทําอาหาร หรือใช้เป็นยารักษาโรค จากสรรพคุณที่ช่วยปรับสมดุลของร่างกาย ช่วยบํารุงไต ขับปัสสาวะ บํารุงระบบประสาท ในตํารายา ไทยใช้ทั้งต้นต้มกินเป็นยาขับปัสสาวะ แก้เบาหวาน ต้มน้ำอาบแก้ผื่นคัน น้ำคั้นใบสดรักษาริดสีดวงทวาร ใบแห้งจะมีกลิ่นหอมคล้ายกลิ่นน้ำผึ้ง นำมาใช้ต้มกับน้ำดื่มหรือชงแทนชาจะช่วยลดน้ำหนักได้ ใบสดแก่นำมาตำผสมกับเกลือใช้กินรักษากลิ่นปากและช่วยระงับกลิ่นตัว
ไฮโดรโซล" (Hydrosol) หรือ น้ำสกัดน้ำมันหอมระเหย คือ สารสกัดในชั้นน้ำที่ได้จากการสกัดด้วยไอน้ำ โดยปกติการสกัดจะได้ผลิตภัณฑ์ออกมาเป็น 2 ส่วน คือส่วนที่ไม่ละลายน้ำ (น้ำมันหอมระเหย) และสารสกัดชั้นน้ำ (ไฮโดรโซล) โดยชั้นน้ำนี้จะเรียกว่า น้ำสกัดกลิ่นดอกไม้ (floral water) เนื่องจากเป็นวิธีที่นิยมนำมาสกัดดอกไม้ การสกัดน้ำมันหอมระเหยนิยมใช้วิธีกลั่นด้วยไอน้ำ ซึ่งเป็นวิธีการสกัดสารออกจากของผสมโดยใช้ไอน้ำเป็นตัวทำละลาย สำหรับแยกสารที่ระเหยง่าย ไม่ละลายน้ำ และไม่ทำปฏิกิริยากับน้ำ ออกจากสารที่ระเหยยาก
การพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้านเวชสำอางเป็นการยกระดับความสามารถในการแข่งขันของเครื่องสำอางสมุนไพรพื้นบ้านของประเทศไทยได้เป็นอย่างดี โดยปัจจุบันได้พัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์โฟมล้างหน้า ภายใต้ลิขสิทธิ์ของบริษัทกีรติ จำกัด ติดต่อสอบถาม ได้ที่ https://www.facebook.com/giratiTH คุณธัญญรัตน์ ตั้วเจริญ โทร 0924654987 อีเมล ttuajaroen@gmail.com
ข้อมูลเผยแพร่ : 15 กันยายน 2565
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> Click
เนยถั่วดาวอินคา เพิ่มศักยภาพอาหารเพื่อสุขภาพ ชะลอการแก่ก่อนวัย
นักวิจัย : ผศ.ดร.สิริรัตน์ พานิช
การวิจัยเนยถั่วดาวอินคาที่ผ่านกระบวนการพัฒนาแล้ว มีปริมาณไขมัน 52.14% คาร์โบไฮเดรต 13.8% และมีโปรตีนสูงถึง 27.79% มีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายที่ครบถ้วน โดยมีกรดลิวซีน (leucine) สูงที่สุด ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับกระบวนการเติบโตและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย เช่น กระดูก ผิวหนัง และกล้ามเนื้อ รองลงมาคือทรีโอนีน (threonine) ที่ช่วยในการเผาผลาญอาหารในร่างกายและยังช่วยส่งเสริมการดูดซึมอาหาร รวมไปถึงกรดฮิสทิดีน (histidine) ซึ่งเป็นกรดอะมิโนจำเป็นในเด็ก ชนิดของกรดไขมันอิ่มตัวในเนยถั่วดาวอินคา มีกรดปาล์มิติก (palmitic) กรดสเตียริก (stearic) และปริมาณกรดไขมันไม่อิ่มตัว พบว่ามี กรดลิโนเลนิกอัลฟา (alpha-linolenic) ที่เสริมการเจริญเติบโตของเด็กสูงที่สุดถึง 2.48 กรัม/100 กรัม รองลงมาคือ กรดไลโนเลอิก (Linoleic) 23.41 กรัม/100 กรัม และกรดโอเลอิก (oleic) 5.53 กรัม/100 กรัม ด้านแร่ธาตุที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ประกอบไปด้วยโพแทสเซียม แมงกานีส แคลเซียมที่มีประโยชน์ต่อกระดูกและฟัน นอกจากนี้ยังพบสังกะสี เหล็ก และซิลีเนียม ซึ่งมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ
ข้อมูลเผยแพร่ : วันที่ 22 ธันวาคม 2564
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> Click
นมจากถั่วดาวอินคา สำหรับผู้แพ้นมวัว
นักวิจัย : ผศ.ดร.สิริรัตน์ พานิช
การศึกษาคุณสมบัติทางเคมี คุณสมบัติทางกายภาพ คุณสมบัติทางจุลชีววิทยาของนมถั่วดาวอินคาหลังจากการสกัดน้ำมัน ว่าได้วิเคราะห์คุณค่าทางโภชนาการ 1 หน่วยบริโภค 180 มิลลิลิตร ได้รับพลังงานทั้งสิ้น 110 กิโลแคลอรี ในขณะที่ปริมาณวิตามินและแร่ธาตุประกอบด้วย วิตามินบีหนึ่ง 2% แคลเซียม 4% และเหล็ก 4% ส่วนด้านการทดสอบคุณภาพทางประสาทสัมผัสของอาหารโดยเปรียบเทียบกับนมอัลมอนด์ พบว่านมจากถั่วดาวอินคามีกลิ่นและรสถั่วรุนแรงกว่า แต่เนื่องด้วยผลวิจัยด้านคุณค่าทางอาหารสูง โปรตีนสูง มีไขมันดีที่มีประโยชน์ และมีโอเมกา 3 6 9 รวมถึงไม่มีไขมันทรานส์และคอเลสเตอรอล จึงทำให้สามารถดึงดูดและชักจูงผู้บริโภค โดยสามารถแต่งกลิ่นและรส ซึ่งผู้ผลิตต้องนำไปพัฒนารสชาติของนมให้ถูกปากผู้บริโภคต่อไป "นับว่าถั่วดาวอินคา มีศักยภาพที่ดีในการนำมาพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์นมทดแทนนมวัว ซึ่งเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้บริโภคในยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี"
ข้อมูลเผยแพร่ : วันที่ 22 ธันวาคม 2564
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติม >> Click
ผลิตภัณฑ์แผ่นมาส์กหน้าใยไหม
นักวิจัย : ผศ.ดร.สิริรัตน์ พานิช
ผลิตภัณฑ์แผ่นมาส์กหน้าใยไหมเป็นผลงานวิจัยต่อยอดจากงานวิจัยที่ผ่านมาภายใต้โครงการ Thai-fruit-Functional fruit ที่ได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนงานวิจัย (สกว) โดยโครงการ Thai-fruit-Functional fruit ได้ทดสอบความสามารถการต้านอนุมูลอิสระของผลไม้ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทยจำนวน 19 ชนิด และผลไม้จากต่างประเทศจำนวน 3 ชนิด จากงานดังกล่าวพบว่าผลไม้ไทย 3 ชนิด คือ หมากเม่า สมอ และมะขามป้อม มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระมากกว่าผลไม้จากต่างประเทศ ซึ่งเป็นที่นิยมใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง จากผลการวิจัยพบว่า เมื่อเปรียบเทียบผลไม้ไทยด้วยกันแล้วมะขามป้อมมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงสุด มีปริมาณวิตามินซีสูงมาก และสารต้านอนุมูลอิสระอื่น ๆ อีกถึง 6 ชนิด ได้แก่ Qeraninn, Quercetin 3-B-d-Glucopyranoide, Kaempferol 3-B-D- Glucopyranoide, Isocarilagin, Quercetin และ Kaempferol ซึ่งสารเหล่านี้มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ส่งผลให้ช่วยชะลอและป้องกันการเกิดอนุมูลอิสระที่เกิดจากแสงแดด หมอกควันพิษ ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญในการทำลายผิวหนัง ผิวหนังเกิดรอยเหี่ยวย่นและริ้วรอย นอกจากนี้อนุมูลอิสระยังเป็นตัวกระตุ้นให้คอลลาเจนใต้ผิวหนังสลายเร็วขึ้น ส่งผลให้ผิวแห้งและหมองคล้ำ ดังนั้น เซรั่มที่มีส่วนผสมที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูงจะช่วยลดริ้วรอยที่เกิดจากแสงแดดได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้มะขามป้อม ราคาถูก หาง่ายและมีทุกฤดูกาล จึงเหมาะในการนำมาทำส่วนผสมในเครื่องสำอาง
ข้อมูลเผยแพร่ : วันที่ 22 ธันวาคม 2563